แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับทิศทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ข้อที่ 1. ข้อใดคือบริบทภายในของการเปลี่ยนแปลงทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่นี้ ?
ก. ขนาดของกำลังแรงงานเริ่มลดลง
ข. การเปลี่ยนแปลงพื้นที่ชนบทไปสู่ความเป็นเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ค. ประชากรวัยแรงงานต้องแบกรับการดูแลผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 2. ข้อใดคือบริบทภายนอกของการเปลี่ยนแปลงทางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่นี้ ?
ก. การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ข. ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้มีความรุนแรงมากขึ้น
ค. ภาคบริการตองปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 3. ข้อใด อยู่ใน 6 ยุทธศาสตร์หลัก ของกรอบการพัฒนาระยะยาว เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ ?
ก. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
ข. ยุทธศาสตร์การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน
ค. ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 4. ข้อใด ถือเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม ของกรอบแนวคิดและหลักการของแผนพัฒนาฯ ฉบับนี้ ?
ก. คน
ข. เศรษฐกิจ
ค. สิ่งแวดล้อม
ง. ศาสนา
ข้อที่ 5. ข้อใด ถือเป็นเป้าหมาย ประเทศไทยในอนาคต ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับนี้ ?
ก. หลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง มีรายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้น
ข. ความเหลื่อมล้ำน้อยลง มีมาตรฐานการดำรงชีวิตที่มีคุณภาพทั่วถึง
ค. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 6. ข้อใด ไม่ใช่แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม (การลงทุนเพื่ออนาคตประเทศไทย) ?
ก. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์
ข. การสนับสนุนการเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมและบริการสมัยใหม่
ค. การลงทุนเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ง. การพัฒนาสินค้า OTOP
ข้อที่ 7. ข้อใด ไม่ใช่แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจรายสาขา (ศักยภาพการแข่งขันสู่ประเทศรายได้สูง) ?
ก. การส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนา
ข. การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์
ค. การส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้มแข็งสู่เศรษฐกิจดิจิตอล
ง. การพัฒนาผลิตภาพแรงงาน
ข้อที่ 8. ข้อใด ไม่ใช่แนวทางการพัฒนาการเกษตรสู่ความเป็นเลิศด้านอาหาร ?
ก. การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. การส่งเสริมการรวมกลุ่มการผลิตทางการเกษตร
ค. การลงทุนเพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ง. การพัฒนาฐานข้อมูลด้านอุปสงค์และอุปทานด้านการเกษตร
ข้อที่ 9. ข้อใด ไม่ใช่แนวทางการพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ?
ก. การพัฒนาผลิตภาพแรงงาน
ข. การพัฒนาศักยภาพคนในทุกช่วงวัยให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
ค. การยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้
ง. การสร้างความอยู่ดี มีสุขของครอบครัวไทยให้เอื้อต่อการพัฒนาคน
ข้อที่ 10. ข้อใด ไม่ใช่แนวทาง การสร้างความเสมอภาคเพื่อรองรับสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ ?
ก. การพัฒนาการบริหารจัดการในระบบสุขภาพ
ข. การเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค
ค. การเสริมสร้างบทบาทของสถาบันทางสังคมและทุนทางวัฒนธรรม
ง. การสร้างความอยู่ดี มีสุขของครอบครัวไทยให้เอื้อต่อการพัฒนาคน
แนวข้อสอบความรู้เกี่ยวกับระเบียบที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาชุมชน [ชุดที่ 1]
คำชี้แจง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว
ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน พ.ศ. 2547
ข้อที่ 1. บุคคลตามข้อใดมีอํานาจตีความวินิจฉัยปัญหาที่เกิดจากการปฏิบัติตามระเบียบนี้ ?
ก. อาสาพัฒนาชุมชน
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. ผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน
ง. รัฐมนตรี
ข้อที่ 2. ข้อใดไม่ใช่ระเบียบที่อยู่ในหมวด 1 การดําเนินงานตามระเบียบนี้ ?
ก. ให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกระดับส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสเป็น อช. ในหมู่บ้าน หรือผู้นํา อช. ในระดับตําบลของตนโดยสมัครใจ
ข. ให้จัดฝึกอบรม ปฐมนิเทศ หรือประชุมสัมมนา อช. และผู้นํา อช. เพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน
ค. ให้กรมการพัฒนาชุมชน เผยแพร่ข่าวสาร เกี่ยวกับการอาสาพัฒนาชุมชนและประสานการดําเนินงานกับหน่วยงานของรัฐ
ง. ให้พัฒนากรผู้รับผิดชอบตําบลประสานงานให้คณะกรรมการหมู่บ้าน จัดเวทีประชาคมเพื่อคัดเลือกบุคคล
ข้อที่ 3. ในหมู่บ้านหนึ่งต้องมีอาสาพัฒนาชุมชนไม่น้อยกว่ากี่คน ?
ก. สองคน
ข. สามคน
ค. สี่คน
ง. ห้าคน
ข้อที่ 4. อาสาพัฒนาชุมชนต้องมีคุณสมบัติตามข้อใด ?
ก. เป็นภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
ข. เป็นผู้มีกายทุพพลภาพไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ไร้ความสามารถ หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
ค. เป็นข้าราชการประจํา พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ง. มีภูมิลําเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นประจําในหมู่บ้านนั้นมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน
ข้อที่ 5. บุคคลตามข้อใดมีหน้าที่ประสานงานการคัดเลือกผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน ?
ก. กํานัน
ข. ผู้ใหญ่บ้าน
ค. พัฒนากร
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ข้อที่ 6. ในกรณีที่ อช. หรือ ผู้นํา อช. พ้นจากตําแหน่งก่อนครบวาระ ต้องมีวาระการปฏิบัติงานเหลืออยู่กี่วัน ถึงต้องดําเนินการคัดเลือกขึ้นใหม่แทนคนเก่า ?
ก. สามสิบวัน
ข. หกสิบวัน
ค. เก้าสิบวัน
ง. ร้อยยี่สิบวัน
ข้อที่ 7. อาสาพัฒนาชุมชนมีหน้าที่ปฏิบัติงานในหมู่บ้านที่ได้รับคัดเลือกตามข้อใด ?
ก. ช่วยเหลือ สนับสนุน การดําเนินงานตามแผนงาน โครงการ หรือกิจกรรมพัฒนาองค์กร
ข. เป็นผู้ประสานงานระหว่างองค์กรกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือเอกชนอื่นๆ
ค. ปฏิบัติหน้าที่อื่น ตามที่เวทีประชาคม คณะกรรมการหมู่บ้าน องค์การบริหารส่วนตําบลหรือทางราชการมอบหมาย
ง. กระตุ้นให้องค์กรรู้สภาพปัญหาและสามารถวางแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาได้เอง
ข้อที่ 8. การประชุมผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน จะจัดเป็นประจําทุกสิ้นงวดปฏิบัติงาน เพื่อเหตุผลตามข้อใด ?
ก. รายงานผลการปฏิบัติงาน
ข. รับคำสั่งงานจากผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. วางแผนการดําเนินงาน
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
ข้อที่ 9. ผู้ใดมีอำนาจลงนามในบัตรประจําตัวอาสาพัฒนาชุมชน ?
ก. ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน
ข. ผู้ใหญ่บ้าน
ค. กำนัน
ง. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552
ข้อที่ 10. เวทีพูดคุยของอาสาพัฒนาชุมชนที่พัฒนากรผู้รับผิดชอบตําบลประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตําบลจัดให้อาสาพัฒนาชุมชนคือเวทีตามข้อใด ?
ก. เวทีประชาคมหมู่บ้าน
ข. เวทีประชาคมตำบล
ค. เวทีประชาคมอาสาพัฒนาชุมชน
ง. เวทีประชาคมประธานอาสาพัฒนาชุมชน
ข้อที่ 11. ข้อใดไม่จัดอยู่ในหมวดที่ 1 การดําเนินงานตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการอาสาพัฒนาชุมชน พ.ศ. 2547 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 ?
ก. ให้เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกระดับส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสเป็น อช. ในหมู่บ้าน หรือผู้นํา อช. ในระดับตําบลของตนโดยสมัครใจ
ข. ให้จัดฝึกอบรม ปฐมนิเทศ หรือประชุมสัมมนา อช. และผู้นํา อช. เพื่อให้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตน และสามารถนําไปปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค. ให้กรมการพัฒนาชุมชน เผยแพร่ข่าวสาร เกี่ยวกับการอาสาพัฒนาชุมชนและประสานการดําเนินงานกับหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
ง. ให้กรมการพัฒนาชุมชน เสริมและสนับสนุนให้ประชาชนมีโอกาสในการหางาน ในหมู่บ้านหรือชุมชนที่ประชาชนอยู่
ข้อที่ 12. การประสานงานระหว่างองค์กรประชาชนกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือเอกชนอื่นๆ เป็นหน้าที่ของบุคคลตามข้อใด ?
ก. อาสาพัฒนาชุมชน
ข. ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน
ค. พัฒนากร
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ความรู้เกี่ยวกับระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการดําเนินงานศูนย์ประสานงานองค์การชุมชน พ.ศ. 2551
ข้อที่ 13. “Community Organization Network Center” คือ ?
ก. ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชน
ข. ศูนย์องค์การชุมชน
ค. ศูนย์องค์การเครือข่ายพัฒนาชุมชน
ง. ศูนย์ผู้แทนองค์การชุมชน
ข้อที่ 14. การกำหนดนโยบาย และควบคุมดูแลกิจการทั่วไปของศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนเป็นหน้าที่ของบุคคลตามข้อใด ?
ก. อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน
ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. คณะกรรมการกลาง
ง. คณะกรรมการพัฒนาชุมชน
ข้อที่ 15. ตามระเบียบนี้ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนมีกี่ระดับ ?
ก. มีสองระดับ คือ ระดับหมู่บ้าน และระดับตำบล
ข. มีสามระดับ คือ ระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด
ค. มีสี่ระดับ คือ ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ และระดับจังหวัด
ง. มีห้าระดับ คือ ระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ
ข้อที่ 16. ศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนในแต่ละระดับมีภารกิจตามข้อใด ?
ก. บูรณาการการจัดทำแผนชุมชนระดับประเทศ ประสานแผนพัฒนาองค์กรปกครองส่วนจังหวัด และแผนพัฒนาประเทศ
ข. ประสานงานระหว่างองค์กรปกครองส่วนจังหวัดในการดำเนินงานตามแผนงานและกิจกรรม
ค. ประสานงาน และสนับสนุนกระบวนการยุติธรรม
ง. ส่งเสริม และประสานให้มีการจัดการความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม
ข้อที่ 17. คณะทำงานส่งเสริม ศอช.ต. มีหน้าที่ส่งเสริม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ ศอช.ต. ตามข้อใด ?
ก. สนับสนุนภารกิจของศูนย์ประสานงานองค์การชุมชน
ข. เสริมสร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ แก่คณะกรรมการ
ค. ให้คำปรึกษาด้านวิชาการ กฎหมาย ระเบียบ และช่วยเหลือสนับสนุนการดำเนินงานตามที่คณะกรรมการร้องขอ
ง. ถูกทุกข้อ
ข้อที่ 18. การตามสนับสนุน และประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์ประสานงานองค์การชุมชนอย่างใกล้ชิดเป็นหน้าที่ของ ?
ก. คณะกรรมการ
ข. ประธานคณะกรรมการ
ค. เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนระดับอำเภอ จังหวัด และศูนย์ช่วยเหลือทางวิชาการพัฒนาชุมชนเขต
ง. พัฒนากร
หน้าที่เข้าชม | 4,688,412 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 3,431,413 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 ส.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |