แจกแนวข้อสอบ นายสิบตำรวจ ฟรี
ความรู้เกี่ยวกับกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556
ข้อที่ 10. ข้อใดให้ความหมายของ “การสืบสวนข้อเท็จจริง” ตามกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง พ.ศ. 2556 ได้ชัดเจนที่สุด ?
ก. การแสวงหาข้อเท็จจริงของข้าราชการตํารวจ
ข. การแสวงหาพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจ
ค. การแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจ
ง. การแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของข้าราชการตํารวจว่าได้กระทําผิดวินัยตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่อย่างไร
ข้อที่ 11. ในการแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสั่งให้ผู้ใดทําการสืบสวน ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวนต้องเป็นบุคคลตามข้อใด ?
ก. ผู้รู้เห็นเหตุการณ์ในเรื่องที่สืบสวน
ข. รัฐมนตรี
ค. ข้าราชการตํารวจชั้นสัญญาบัตรที่มีตําแหน่งและยศไม่ต่ํากว่าผู้ถูกกล่าวหา
ง. เจรตำรวจ
ข้อที่ 12. ในกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนได้แจ้งคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบแล้ว ผู้ถูกกล่าวหาต้องชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องที่ถูกกล่าวหา ต่อประธานกรรมการสืบสวนภายในกี่วันนับตั้งแต่วันที่รับทราบคําสั่ง ?
ก. ภายในสามวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ข. ภายในห้าวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ค. ภายในสิบวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่รับทราบคําสั่ง
ข้อที่ 13. คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนไม่มีหน้าที่ ตามข้อใด ?
ก. สืบสวนตามหลักเกณฑ์ วิธีการและระยะเวลาที่กําหนดในกฎ ก.ตร. นี้ เพื่อแสวงหาความจริง ในเรื่องที่กล่าวหาและดูแลให้บังเกิดความยุติธรรมตลอดการสืบสวน
ข. รวบรวมประวัติของผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่กล่าวหาเท่าที่จําเป็นเพื่อประกอบการพิจารณา
ค. จัดทําบันทึกการปฏิบัติงานที่มีการสืบสวนไว้ทุกครั้ง
ง. ให้บุคคลอื่นเข้าร่วมทําการสืบสวนเพื่อเป็นพยาน
ข้อที่ 14. ในกรณีที่การลงมติของที่ประชุมคณะกรรมการสืบสวนมีคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ตัดสินชี้ขาดด้วยวิธีใด ?
ก. ให้นำเสนอเรื่องที่ประชุมแก่ ผบ.ตร. เพื่อให้ทำการชี้ขาด
ข. ให้นำเสนอเรื่องที่ประชุมแก่รัฐมนตรีเพื่อให้ทำการชี้ขาด
ค. ให้บันทึกการประชุดเสนอผู้บังคับบัญชาชั้นถัดไปเพื่อให้ทำการชี้ขาด
ง. ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาดการประชุม
ข้อที่ 15. ในการนําเอกสารหรือวัตถุมาใช้เป็นพยานหลักฐานในสํานวนการสืบสวน คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องบันทึกอย่างไร ?
ก. ไม่ต้องบันทึก
ข. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร
ค. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร และจากผู้ใด
ง. ให้บันทึกไว้ด้วย ว่าได้มาอย่างไร จากผู้ใด และเมื่อใด
ข้อที่ 16. ในกรณีที่คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนเห็นว่ามีมูลที่ควรกล่าวหาผู้กระทำผิด คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องดำเนินการตามข้อใด ?
ก. เรียกผู้ถูกกล่าวหา มาพบเพื่อแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ข. แจ้งให้ศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา
ค. ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา
ง. สั่งขังผู้ถูกกล่าวหา
ข้อที่ 17. ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาให้ถ้อยคํารับสารภาพว่าได้กระทําการตามที่ถูกกล่าวหาให้คณะกรรมการ สืบสวนหรือผู้สืบสวน ดำเนินการตามข้อใด ?
ก. แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยกรณีใด ตามมาตราใด
ข. แจ้งให้ศาลออกหมายจับผู้ถูกกล่าวหา พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา
ค. ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา ตามความผิดที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ
ง. สั่งขังผู้ถูกกล่าวหาไว้ก่อน แล้วจึงแจ้งผู้ถูกกล่าวหาทราบว่าการกระทําของผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดวินัยกรณีใด ตามมาตราใด และ ดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหา ตามความผิดที่ผู้ถูกกล่าวหาได้กระทำ
ข้อที่ 18. ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ยอมรับสารภาพ และต้องการยื่นคําชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเป็นหนังสือ ผู้ถูกกล่าวต้องยื่นหนังสือชี้แจงภายในกี่วัน ?
ก. ภายในสามวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ข. ภายในห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ค. ภายในสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ง. ภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหา
ข้อที่ 19. ในการสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยานของคณะกรรมการสืบสวนต้องมีกรรมการ สืบสวนไม่น้อยกว่ากี่คน จึงจะสืบสวนได้ ?
ก. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสองคนจึงจะสืบสวนได้
ข. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสามคนจึงจะสืบสวนได้
ค. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าสี่คนจึงจะสืบสวนได้
ง. ต้องมีกรรมการสืบสวนไม่น้อยกว่าห้าคนจึงจะสืบสวนได้
ข้อที่ 20. การสอบปากคำผู้ถูกกล่าวหาและพยาน คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องบันทึกถ้อยคําตามแบบใด ?
ก. แบบ สส.3 ที่ ก.ตร. กําหนด
ข. แบบ สส.4 ที่ ก.ตร. กําหนด
ค. แบบ สส.5 ที่ ก.ตร. กําหนด
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ข้อที่ 21. หากคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนสงสัยว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําผิด วินัยในเรื่องอื่นนอกจากที่ระบุไว้ในคําสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือคําสั่งให้สืบสวน ให้ประธาน กรรมการหรือผู้สืบสวน ทำตามข้อใด ?
ก. ไม่ต้องทำอะไร
ข. ให้รายงานไปยังผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนโดยเร็ว
ค. ให้เขียนบันทึกเป็นรายงานไว้ตามแบบ สส.๓ ที่ ก.ตร. กําหนด แนบไปกับบันทึกการสืบสวน
ง. ให้เขียนบันทึกเป็นรายงานไว้ตามแบบ สส.๓ หรือแบบ สส.๔ ที่ ก.ตร. กําหนด แนบไปกับบันทึกการสืบสวน
ข้อที่ 22. หากในระหว่างการสืบสวนมีการสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาไปอยู่นอกบังคับบัญชาของผู้สั่งให้สืบสวน ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําตามข้อใด ?
ก. ให้เลิกทำการสืบสวน
ข. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ
ค. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ แล้วทํารายงานการสืบสวนเสนอต่อผู้สั่งแต่งตั้ง
ง. ให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนทําการสืบสวนต่อไป จนเสร็จ แล้วทํารายงานการสืบสวนเสนอต่อผู้สั่งแต่งตั้ง และให้ผู้สั่งแต่งต้ั้ง ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาคนใหม่ของผู้ถูกกล่าวหา
ข้อที่ 23. แบบ สส.2 ใช้สำหรับบันทึกตามข้อใด ?
ก. บันทึกการแจ้งเรื่องที่ถูกกล่าวหาหรือถูกร้องเรียนตามข้อ ๑๙
ข. บันทึกถ้อยคําของผู้ถูกกล่าวหา
ค. บันทึกถ้อยคําพยาน
ง. รายงานการสืบสวน
ข้อที่ 24. เมื่อผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนได้รับความเห็นและผลการสืบสวนข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการสืบสวนแล้ว ปรากฏว่าผลการสืบสวนไม่มีมูล ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนมีอำนาจหน้าที่ตามข้อใด ?
ก. ตรวจสอบความถูกต้องของสํานวนการสืบสวนตามข้อ ๓๗ ข้อ ๓๘ และข้อ ๓๙
ข. ส่ังให้คณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนดําเนินการสืบสวนเพิ่มเติมได้ หากปรากฏว่า การสืบสวนเรื่องนั้น ๆ ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เพียงพอที่จะพิจารณาสั่งการได้
ค. สั่งยุติเรื่อง
ง. ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หน้าที่เข้าชม | 4,688,412 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 3,431,413 ครั้ง |
เปิดร้าน | 6 ส.ค. 2559 |
ร้านค้าอัพเดท | 21 ต.ค. 2568 |